วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557

ข่าวการศึกษาในวิชาภาษาไทย

แนวหน้า      สกู๊ปพิเศษ : เรื่องการอ่านออกเขียนได้ของเด็กไทยเกี่ยวกับวิชาภาษาไทย...ถึงเวลาแล้วหรือยัง?
ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- จันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2557 06:00:00 น.
          ปัญหาที่สะสมมานานเป็นสิบปีของการศึกษาขั้นพื้นฐาน เริ่มตั้งแต่ชั้นปฐมวัย-อนุบาล-ประถมไปจนถึงมัธยม ซึ่งถูกละเลยที่จะแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อให้เด็กไทยอ่านออกเขียนได้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา โดยจากผลสำรวจเมื่อปี 2544 มีเด็กไทยที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เฉลี่ยถึงกว่า 12 เปอร์เซ็นต์ เป็นเรื่องที่น่าตกใจ เพราะหมายถึงระบบการศึกษาไทยนั้นเริ่มตกต่ำทั้งๆที่วิชาภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติ แต่เด็กไทยกลับไม่เข้าใจในภาษาของตัวเอง อีกประการสำคัญ เรากำลังเข้าสู่ยุคที่จะพัฒนาเป็นระบบอาเซียน ถึงเวลาแล้วที่ผู้รับผิดชอบเรื่องการศึกษา ต้องหันมาดูว่ามีปัจจัยอะไรที่ทำให้เด็กไทยอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ และอ่อนต่อการเรียนวิชาภาษาไทยซึ่งจากการสำรวจความคิดเห็นของครู และเด็กนักเรียน เบื้องต้นพบว่าปัญหาเกิดจากแนวความคิด และแนวนโยบายของนักวิชาการ ที่ทำหนังสือเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก เรื่องการอ่าน การสะกด การเรียงคำ การผสมคำอ่าน ทำให้ผู้สอนไม่ทราบว่าจะใช้ตำราเล่มไหนแน่ ที่จะทำการสอนเด็กรวมทั้งปัญหาเรื่องการเปลี่ยนผู้บริหารฝ่ายการเมือง ที่ไม่มีความรู้ด้านการศึกษาอย่างแท้จริง และเปลี่ยนบ่อยเกินไป ทำให้นโยบายเปลี่ยนไปมาในด้านการศึกษา และวิชาภาษาไทย นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องครูผู้สอนที่ต้องแบกภาระหน้าที่หลายอย่างมากเกินไป และสำคัญที่สุดคือผู้ปกครองขาดการเอาใจใส่ ในการทบทวนบทเรียน และเป็นที่ปรึกษาให้แก่บุตรหลานตนเอง
        นายมานพ  ษมาวิมล ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต
2 กล่าวว่า สพป.สุโขทัย เขต 2 ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และให้ความสำคัญที่จะพัฒนาเด็กนักเรียนในพื้นที่ ให้สามารถอ่านออกเขียนได้ จึงมีการริเริ่มโครงการลูกพ่อขุนรามต้องอ่านออกเขียนได้ 100 % ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วประเทศ และเมื่อ 17 ม.ค. 57 ซึ่งเป็นวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ผู้ทรงประดิษฐ์อักษรไทย ก็ได้มีการประกาศเขตพื้นที่การศึกษาที่มีเด็กนักเรียนอ่านออกเขียนได้ 100 % โดยมีนายอภิชาติ  จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาเป็นประธานจัดงาน พร้อมมอบโล่รางวัลให้กับคณาจารย์ที่ได้รางวัลครูภาษาไทยดีเด่น ระดับเหรียญทองถึง 6 รางวัล เพื่อเป็นเกียรติและกำลังใจแก่ครูผู้มีผลงาน  สำหรับโครงการลูกพ่อขุนรามผู้พิชิต นำผลสัมฤทธิ์สู่มาตรฐานสากล นั้นมีแนวนโยบายที่ใช้หลักการปรับการสอนเป็นแจกลูกประสมคำ และปรับชั่วโมงเรียนภาษาไทยในชั้น ป.1-3 รวมทั้งให้อิสระโรงเรียนในการคิดวิธีสอน หรือนวัตกรรมอื่นๆเพิ่มไปด้วย ให้ประเมินการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนทุกคน ทุกชั้นเรียน ภาคเรียนละ 1 ครั้ง แล้วทำความเข้าใจกับนักเรียนในการเรียนแจกลูกประสมคำ ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ   นายมานพ กล่าวอีกว่า ยังมีแนวการสอนที่ทำให้เด็กไม่เบื่อต่อการเรียนภาษาไทย ด้วยการจัดรูปเล่มตำราเรียนให้มีสีสันน่าอ่าน สามารถรู้ถึงความหมายของคำอ่าน และใช้ผสมผสานกับเทคโนโลยีระบบคอมพิวเตอร์ มาช่วยในการเล่นคำสะกดการอ่านของเด็กอีกด้วย ทำให้เด็กไม่เบื่อในการเรียนภาษาไทย ถือเป็นการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ด้วยพันธสัญญา ลูกพ่อขุนรามลายมืองาม จบ ป.3 ต้องอ่านออกเขียนได้ทุกคน”      “การอ่านเป็นสิ่งสำคัญ เราจึงเน้นเรื่องนี้เป็นอันดับต้นๆ พร้อมกับให้ผู้ปกครองของนักเรียนช่วยเป็นครูคนที่ 2 สอนและให้คำปรึกษาแก่เด็กด้วย ซึ่งจากนโยบายนี้ทำให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ สพป.สุโขทัย เขต 2 มีผลการเรียนดีขึ้น แล้วยังพัฒนาการเรียนการสอน ให้เป็นต้นแบบต่อสถาบันในเขตอื่นๆด้วย   ที่ผ่านมาบุคลากรของ สพป.สุโขทัย เขต 2 ได้เป็นวิทยากรบรรยายการเรียนการสอนภาษาไทย ในพื้นที่การศึกษาอื่นๆ และยังถูกจัดให้เป็นแม่แบบการเรียนการสอนของ จ.สุโขทัย ซึ่งจากผลงานดังกล่าวนี้ จึงควรมีการเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จ เพื่อให้เด็กไทยอ่านออกเขียนได้ 100 % รองรับการเข้าสู่กลุ่มอาเซียนอย่างเต็มความภาคภูมิ


ภูเบศวร์  ฝ้ายเทศ . 2557. ข่าวการศึกษาในวิชาภาษาไทย. (ออนไลน์)
แหล่งที่มา:
http://www.ryt9.com 30  กันยายน 2557E - mail : jajapancake@gmail.com



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น